อดีตเด็กฝึกงานทีมพัฒนาเกม Chucklefish หรือผู้สร้าง Starbound จำนวนมาก ออกมาแฉว่าบริษัทเกมไม่ยอมจ่ายเงินเดือนให้พนักงานตามสัญญา พร้อมมีวัฒนธรรมการทำงานแบบ Crunch Culture ที่ผิดจรรยาบรรณเกินทน
PCGamesN รายงานจากทวิตเตอร์ของ Damon Reece อดีตเด็กฝึกงานให้ทีมงาน Chucklefish ได้โพสต์เล่าประสบการณ์การทำงานที่เลวร้ายภายในบริษัทเป็นเวลาสองปี
เขากล่าวว่าช่วงเวลานั้น เขาอายุ 16 ปี กับเด็กฝึกงานคนอื่นเผยว่าต้องทำงานให้กับทีมงาน Chucklefish หักโหมเกิน 100 ชั่วโมง แต่ทว่ากลับไม่ได้รับเงินแม้แต่ 1 เซนต์ ในขณะที่วิดีโอเกม (Starbound) สามารถทำรายได้เป็นจำนวนมากถึง 2.5 ล้านชุด หลังจากปลด Early Access
นอกจากนี้ Reece กล่าวว่า Chucklefish ก็มีวัฒนธรรมการทำงานที่เข้าข่ายเป็น Crunch Culture ที่ใช้สภาพแวดล้อมในการบีบบังคับให้นักพัฒนาเกมทุกคนต้องทำงานหนัก โดยกล่าว “ทีมงานมีการตั้งเวลาเส้นตายตั้งแต่แรก และนักสร้างเกมทุกคนจะถูกกดดัน เร่งรีบพัฒนาเกมให้เสร็จ ไม่งั้นรายชื่อจะถูกตัดออกจากเครดิต”
โพสต์ของ Damon Reece ทำให้เกิดกระแสกลายเป็นเรื่องพูดคุยภายในวงการเกม และพนักงาน, เด็กฝึกงาน กับแฟนเกม Starbound จำนวนมาก ร่วมออกมาสนับสนุนโพสต์ของ Damon กันอย่างล้นหลาม
Starbound เป็นหนึ่งในเกมโปรดของผม ผมรู้สึกเสียใจกับเรื่องบ้า ๆ แบบนี้
ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ครั้งนี้
ในฐานะที่พวกเราเป็นนักเรียน ขอขอบคุณที่ท่านยอมเล่าประสบการณ์การทำงาน และกล้าหาญที่จะบอกกล่าวเรื่องนี้เพื่อให้นักพัฒนาเกมในอนาคต ระมัดระวังเรื่องนี้มากขึ้น
นอกจากนี้ ก็มีอดีตพนักงาน Starbound ร่วมออกมาแฉทีมพัฒนาเกม Chucklefish และสนับสนุนความคิดเห็นว่า เธอก็ไม่ได้รับเงินเดือนจากทีมงานแม้แต่นิดเดียว ตรงกับ Damon ที่กล่าวไว้ในโพสต์
ฉันทำงาน (ให้ Chucklefish) มากกว่า 100 ชั่วโมง และฉันก็ไม่ได้รับเงินชดเชยเลย ตอนนั้นฉันกลัวที่จะถามหรือทวง เพราะถ้าหากทำแบบนั้น พวกเขาจะโดนตะคอกกลับมา
ฉันเกือบรับหน้าที่ทำเพลงประกอบและดนตรีสำหรับ Starbound
จนกระทั่งผู้กำกับบอกว่าฉันจะไม่ได้รับเงินโดยทันที และบอกว่าฝ่ายศิลปินและนักเขียนโปรแกรมก็ไม่ได้รับเงินอีกด้วย
ฉันก็บอกกับเขา “นี่เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง” แล้วหลังจากนั้น เขาก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉัน พร้อมบอกข่มว่า “ผมทำเองก็ได้ เพราะอย่างไร คุณคงทำเพลงออกมาแย่อยู่ดี”
– Clark Powell
หลังจากนั้นไม่นาน ทีมงาน Chucklefish ได้เขียนจดหมายแถลงการณ์แสดงความเสียใจ พร้อมยอมรับว่ามีการไม่ยอมจ่ายเงินเดือนให้เด็กฝึกงานกับพนักงานผู้สร้างเกม “จริง” แต่ทีมงานยืนยันว่า พวกเขาไม่มีวัฒนธรรมการทำงานแบบ Crunch Culture กับการถอดรายชื่อเครดิตหากทำงานไม่เสร็จตรงตามเส้นตาย
แต่อย่างไรก็ตาม Reece ก็ออกมาโต้กลับแถลงการณ์ของ Chucklefish ว่า ทีมงานบีบบังคับให้ต้องลงชื่อสัญญา เพื่อทำงานแบบ Crunch Culture โดยพวกเขากล่าวว่าเป็น “เรื่องปกติสำหรับอุตสาหกรรมเกมในตอนนี้” และทีมงานอาจจะพิจารณารับเขาเข้าร่วมทำงานภายในบริษัท หากทำงานให้ทีมงานฟรี
PCGamesN รายงานจากทวิตเตอร์ของ Damon Reece อดีตเด็กฝึกงานให้ทีมงาน Chucklefish ได้โพสต์เล่าประสบการณ์การทำงานที่เลวร้ายภายในบริษัทเป็นเวลาสองปี
เขากล่าวว่าช่วงเวลานั้น เขาอายุ 16 ปี กับเด็กฝึกงานคนอื่นเผยว่าต้องทำงานให้กับทีมงาน Chucklefish หักโหมเกิน 100 ชั่วโมง แต่ทว่ากลับไม่ได้รับเงินแม้แต่ 1 เซนต์ ในขณะที่วิดีโอเกม (Starbound) สามารถทำรายได้เป็นจำนวนมากถึง 2.5 ล้านชุด หลังจากปลด Early Access
นอกจากนี้ Reece กล่าวว่า Chucklefish ก็มีวัฒนธรรมการทำงานที่เข้าข่ายเป็น Crunch Culture ที่ใช้สภาพแวดล้อมในการบีบบังคับให้นักพัฒนาเกมทุกคนต้องทำงานหนัก โดยกล่าว “ทีมงานมีการตั้งเวลาเส้นตายตั้งแต่แรก และนักสร้างเกมทุกคนจะถูกกดดัน เร่งรีบพัฒนาเกมให้เสร็จ ไม่งั้นรายชื่อจะถูกตัดออกจากเครดิต”
โพสต์ของ Damon Reece ทำให้เกิดกระแสกลายเป็นเรื่องพูดคุยภายในวงการเกม และพนักงาน, เด็กฝึกงาน กับแฟนเกม Starbound จำนวนมาก ร่วมออกมาสนับสนุนโพสต์ของ Damon กันอย่างล้นหลาม
Starbound เป็นหนึ่งในเกมโปรดของผม ผมรู้สึกเสียใจกับเรื่องบ้า ๆ แบบนี้
ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ครั้งนี้
ในฐานะที่พวกเราเป็นนักเรียน ขอขอบคุณที่ท่านยอมเล่าประสบการณ์การทำงาน และกล้าหาญที่จะบอกกล่าวเรื่องนี้เพื่อให้นักพัฒนาเกมในอนาคต ระมัดระวังเรื่องนี้มากขึ้น
นอกจากนี้ ก็มีอดีตพนักงาน Starbound ร่วมออกมาแฉทีมพัฒนาเกม Chucklefish และสนับสนุนความคิดเห็นว่า เธอก็ไม่ได้รับเงินเดือนจากทีมงานแม้แต่นิดเดียว ตรงกับ Damon ที่กล่าวไว้ในโพสต์
ฉันทำงาน (ให้ Chucklefish) มากกว่า 100 ชั่วโมง และฉันก็ไม่ได้รับเงินชดเชยเลย ตอนนั้นฉันกลัวที่จะถามหรือทวง เพราะถ้าหากทำแบบนั้น พวกเขาจะโดนตะคอกกลับมา
ฉันเกือบรับหน้าที่ทำเพลงประกอบและดนตรีสำหรับ Starbound
จนกระทั่งผู้กำกับบอกว่าฉันจะไม่ได้รับเงินโดยทันที และบอกว่าฝ่ายศิลปินและนักเขียนโปรแกรมก็ไม่ได้รับเงินอีกด้วย
ฉันก็บอกกับเขา “นี่เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง” แล้วหลังจากนั้น เขาก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉัน พร้อมบอกข่มว่า “ผมทำเองก็ได้ เพราะอย่างไร คุณคงทำเพลงออกมาแย่อยู่ดี”
– Clark Powell
หลังจากนั้นไม่นาน ทีมงาน Chucklefish ได้เขียนจดหมายแถลงการณ์แสดงความเสียใจ พร้อมยอมรับว่ามีการไม่ยอมจ่ายเงินเดือนให้เด็กฝึกงานกับพนักงานผู้สร้างเกม “จริง” แต่ทีมงานยืนยันว่า พวกเขาไม่มีวัฒนธรรมการทำงานแบบ Crunch Culture กับการถอดรายชื่อเครดิตหากทำงานไม่เสร็จตรงตามเส้นตาย
แต่อย่างไรก็ตาม Reece ก็ออกมาโต้กลับแถลงการณ์ของ Chucklefish ว่า ทีมงานบีบบังคับให้ต้องลงชื่อสัญญา เพื่อทำงานแบบ Crunch Culture โดยพวกเขากล่าวว่าเป็น “เรื่องปกติสำหรับอุตสาหกรรมเกมในตอนนี้” และทีมงานอาจจะพิจารณารับเขาเข้าร่วมทำงานภายในบริษัท หากทำงานให้ทีมงานฟรี
เรื่องราวดราม่าระหว่างพนักงานเด็กฝึกงาน กับ Chucklefish กำลังดุเดือด และหน้า Steam Review ของเกม Starbound ตอนนี้ กำลังถูกบอมบ์วิจารณ์แง่ลบจากเหล่าเกมเมอร์บางส่วน ปัจจุบัน Chucklefish ยังไม่มีการปล่อยแถลงการณ์เพิ่มเติมแต่อย่างใด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น